ยุคสมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ : 1991-1996

เซอร์ อเล็กซ์ โบกมือให้แฟนๆ ก่อนเกมเจอแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ในปี 1993
บางที เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาจจะเริ่มเชื่อในเรื่องของคำสาปที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด บ้างแล้ว หลังจากที่พลาดแชมป์ลีกในปี 1992 แบบเฉียดฉิวท่ามกลางการรอคอยมาเป็นเวลา 25 ปีเต็ม
การขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์ไม่เคยใกล้เคียงเท่านี้มาก่อน เมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นรองแชมป์ให้กับลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เบียดคว้าแชมป์ไป แม้ว่าพวกเขาจะถูกทีมปีศาจแดงปราบมาเรียบวุธทั้งในลีก คัพ และเอฟเอ คัพ มาก่อนก็ตาม โดยโปรแกรมเตะถูกจัดออกมาติดๆ กันเลยที่เอลแลนด์ โร้ด หลังจากคว้าแชมป์ลีก คัพ และซูเปอร์ คัพ มาครองได้เป็นครั้งแรก โดยที่ ไบรอัน แม็คแคลร์ ยิงประตูชัยทั้ง 2 นัด ทีมก็เริ่มมีผลงานตกลงเรื่อยๆ โดยทุกอย่างมาจบเอาในเกมพ่ายต่อลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ นั่นทำให้ความหวังคว้่าแชมป์ลีกจบลงทันที
ผู้จัดการทีมกล่าวว่า “เราเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ และดีที่สุด หากว่าเราเล่นกันได้เข้าขากัน เราจะสามารถคว้าแชมป์มาได้ไม่มีที่สิ้นสุด” เขามั่นใจในสิ่งนั้นขึ้นไปอีกเมื่อทีมชุดคลาส ออฟ 92 ได้ชูถ้วยแชมป์เอฟเอ ยูธ คัพ และเตรียมจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในทีมชุดใหญ่
ฤดูกาลต่อมาเป็นการเริ่มเตะในชื่อพรีเมียร์ ลีก เป็นฤดูกาลแรก และก็ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ไปในตัว แต่ทีมปีศาจแดงก็มาถูกทีเด็ดจาก ไบรอัน ดีน ของเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เล่นงานตั้งแต่เกมแรก จากนั้นก็มาแพ้ต่อเอฟเวอร์ตันคาบ้านไปอีก 0-3 ถึงตรงนี้ดูเหมือนการลุ้นแชมป์จะเป็นงานยากแล้ว

คลาส ออฟ 92 คลื่นลูกใหม่ของทีม
“มันค่อนข้างยากลำบากเมื่อเราอยู่ในระหว่างการหมุนเวียนผู้เล่น ความมั่นใจของเราไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย” ผู้จัดการทีมย้ำ จากนั้นเขาก็ไปคว้าตัว เอริค คันโตน่า จากลีดส์ ยูไนเต็ด มาเสริมทีม แม้ว่าช่วงหนึ่งพวกเขาจะนำห่างทีมอันดับ 2 อย่างแอสตัน วิลล่า อยู่ถึง 10 คะแนน แต่ในเกมที่พบกับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้นก็มีความประหม่าเล่นงานอยู่บ้าง ทีมเยือนเป็นฝ่ายออกนำไปก่อน จากนั้น 2 ประตูท้ายเกมจาก สตีฟ บรู๊ซ ก็มาช่วยให้ทีมพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ ก่อนที่ต่อมาพวกเขาจะจัดการทั้งโคเวนทรี, เชลซี และคริสตัล พาเลซ ได้ ผู้คนทั่วทั้งเซอร์ แมตต์ บัสบี้ เวย์ ได้ฉลองกันอย่างเป็นทางการในเกมเอาชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่นี่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่ที่จะตามมาอีกมากมายก่ายกอง
ท่ามกลางความคาดหวังที่สูงขึ้นกับตัวผู้จัดการทีม เขาก็นำทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกในฤดูกาลต่อมา โดยในโคคาโคล่า คัพ พวกเขาไปพ่ายต่อแอสตัน วิลล่า ของ รอน แอตกินสัน ทำให้ทีมพลาดทำสถิติกวาดแชมป์ภายในประเทศมาครองทุกรายการในปี 1994 โดยทีมชุดนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในทีมชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, ไรอัน กิ๊กส์ และแกรี่ พัลลิสเตอร์ ในงานประกาศรางวัล PFA
ถือเป็นฤดูกาลที่พวกเขาคว้าแชมป์เป็นเกียรติให้กับ เซอร์ แมตต์ บัสบี้ ซึ่งเสียชีวิตไปในเดือนกุมภาพันธ์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้ดีตลอดทั้งฤดูกาล มีเพียงเกมที่โดน อลัน เชียเรอร์ นำทีมแบล็คเบิร์นเล่นงานในเดือนเมษายนเท่านั้นที่เป็นจุดด่างพร้อย รวมถึงในเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศที่พบกับโอลด์แฮม ซึ่งเกือบพลาดท่า แต่ มาร์ค ฮิวจ์ส ก็มาซัดประตูตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกมช่วยให้ทีมปีศาจแดงได้ไปเล่นใหม่ในนัดรีเพลย์ ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้สำเร็จ
จากนั้นก็ไม่มีทีมไหนหยุดยั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีก ไม่เว้นแม้กระทั่งเชลซีในนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งพวกเขาเคยเอาชนะทีมปีศาจแดงมาในลีกทั้งเหย้าเยือนโดยได้ประตูจาก กาวิน พีค็อค ทั้ง 2 นัด มาคราวนี้เขาก็ยิงได้แต่ไปชนเสาที่เวมบลีย์ สุดท้ายทีมสิงโตน้ำเงินครามของ เกล็นน์ ฮ็อดเดิ้ล ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป 0-4 คันโตน่าซัดคนเดียว 2 ประตู จากลูกจุดโทษทั้ง 2 ลูก นั่นยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีกว่าเขาได้กลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมไปแล้ว ทีมปีศาจแดงเริ่มกลับมามีชีวิตชีวากันอย่างเต็มที่ แต่ผู้จัดการทีมก็ยังต้องการทำให้ดีกว่านี้อีก “ผมค่อนข้างผิดหวังกับผลงานของทีมในเวทียุโรป และคงจะไม่มีใครที่เซ็งกับเรื่องนี้ไปมากกว่าผมอีกแล้ว” เขาย้อนรำลึก และก็เป็นเรื่องปกติของวงการฟุตบอลที่ต้องมีขึ้นมีลง ในฤดูกาลต่อมาคือ 1994-1995 ก็ได้กลายเป็นปีที่ทีมจะต้องตกเป็นฝ่ายผิดหวังบ้าง

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และลูกทีมในเกมเจอโอลด์แฮม ปี 1994
นี่ยังเป็นปีที่คันโตน่าก่อคดีกระโดดถีบแฟนบอลคริสตัล พาเลซ ที่เซลเฮิร์สท พาร์ค ด้วย ในฤดูกาลนั้นมีสิ่งที่น่าจดจำอยู่ 2 เกมสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั่นก็คือการถล่มอิปสวิช ทาวน์ ยับเยินถึง 9-0 โดย แอนดี้ โคล ที่เพิ่งคว้าตัวมาเมื่อต้นปีซัดคนเดียว 5 ประตู อีกเกมก็ึคือการสอนบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 5-0 ในเกมดาร์บี้ ซึ่ง อังเดร แคนเชลสกี้ส์ ทำแฮตทริคได้
แต่โดยรวมแล้วมันก็เป็นฤดูกาลที่ยากลำบากสำหรับทีม ลูเด็ก มิคลอสโก้ โชว์ฟอร์มเซฟอย่างเหนียวแน่นให้กับเวสต์ แฮม ยูไนเต็ด ทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถยิงประตูเพิ่มนอกเหนือจากลูกตีเสมอของ ไบรอัน แม็คแคลร์ ได้ในวันสุดท้ายของพรีเมียร์ ลีก นั่นทำให้แบล็คเบิร์นของ เคนนี่ ดัลกลิช ได้เป็นฝ่ายชูถ้วยแชมป์แทน แม้ว่าเกมสุดท้ายพวกเขาจะพ่ายแพ้ต่อลิเวอร์พูลไป 1-2 ก็ตาม ความน่าผิดหวังยังไม่ได้จบลงแต่เพียงเท่านั้น สัปดาห์ต่อมาในเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ทีมปีศาจแดงก็ต้องมาพลาดท่าให้กับเอฟเวอร์ตันที่ได้ประตูชัยจาก พอล ไรด์เอาท์ ถือเป็นการล้างแค้นหลังจากที่ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินเป็นฝ่ายปราชัยในเวมบลีย์มาก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
สำหรับเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นยังคงเรียกได้ว่าล้มเหลว หลังจากที่แพ้บาร์เซโลน่าไป 0-4 พวกเขายังต้องมาพลาดท่าให้กับทีมรองบ่อนอย่างไอเอฟเค โกเตนเบิร์ก ไปอีกในเกมต่อมาด้วยสกอร์ 1-3 นั้นทำให้ทีมหมดลุ้นเข้าไปเล่นในรอบต่อไป แต่อย่างน้อยในเกมรอบแบ่งกลุ่มเกมสุดท้ายที่เอาชนะกาลาตาซาราย 4-0 ก็ยังมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นบ้าง เมื่อนักเตะหน้าใหม่อย่าง เดวิด เบ็คแฮม มีชื่อเป็นผู้ทำประตูในเกมดังกล่าวด้วย

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ในปี 1996
แล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับเซอร์ อเล็กซ์ ตอบสนองกับความผิดหวังในฤดูกาลนั้นอย่างไร? ทีมกลับมาคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้ในฤดูกาล 1995-1996 ซึ่งเป็นปีที่ อลัน แฮนเซ่น ได้ลั่นวาจาอันโด่งดังเอาไว้ว่า “คุณไม่มีทางคว้าแชมป์ได้ด้วยเด็กพวกนี้” หลังจากที่ทีมปีศาจแดงพ่ายต่อแอสตัน วิลล่า ไปในนัดเปิดฤดูกาล พร้อมกับขายนักเตะอย่าง มาร์ค ฮิวจ์ส, อังเดร แคนเชลสกี้ส์ และ พอล อินซ์ ออกจากทีม ท่ามกลางคำถามที่ว่าเขาจะใช้งานเด็กชุดนี้แบกรับความกดดันไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า มันยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกเมื่อช่วงหนึ่งทีมตามหลังนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ถึง 12 คะแนน แต่การกลับมาของคันโตน่า และความเหนียวแน่นของ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ก็ช่วยประคองนักเตะเยาวชนของทีมทั้ง เดวิด เบ็คแฮม, พี่น้องเนวิลล์, นิคกี้ บัตต์ และ พอล สโคลส์ ได้เป็นอย่างดี
เควิน คีแกน ผู้จัดการทีมนิวคาสเซิ่ลดูจะรับมือกับความกดดันที่ถาโถมเข้ามาไม่ได้ในช่วงไล่บี้คว้าแชมป์ เขาตกเป็นเหยื่อเกมจิตวิทยาของกุนซือชาวสก็อตต์ผ่านสื่อ และชัยชนะเหนือมิดเดิ้ลสโบรช์ 3-0 ในนัดสุดท้ายก็ช่วยให้ทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์ลีกกลับมามาครองได้สำเร็จ จากนั้นในเกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศกับลิเวอร์พูล ก็มาเกิดเหตุการณ์ที่น่าจดจำอีกคือการยิงประตูของคันโตน่าที่สวมปลอกแขนกัปตันทีม ถือเป็นอีกฤดูกาลที่คงจะไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับแฟนบอลปีศาจแดงทั้งหลาย

เอริค คันโตน่า กับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก ปี 1993

การรอคอยแชมป์ลีกสูงสุดยาวนาน 26 ปีสิ้นสุดลง… สตีฟ บรู๊ซ และไบรอัน ร็อบสัน ขึ้นรับถ้วยแชมป์

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และเซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน กับถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก ปี 1994

แชมป์เอฟเอ คัพ ปี 1994

เอริค คันโตน่า ฉลองการกลับมาด้วยการทำประตูในเกมเจอลิเวอร์พูล ปี 1995

ฉลองแชมป์พรีเมียร์ ลีก ปี 1996

เอริค คันโตน่า ยิงประตูดับฝันลิเวอร์พูล เอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศ ปี 1996
ตอนหน้า ยุคสมัยของ เซอร์ อเล็กซ์ : 1996-2001
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts